ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การบริหารจัดการสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โดยใช้กลยุทธ์ MS-TEAM MODEL
โรงเรียนอนุบาลแจ้ห่ม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 เปิดทำการสอน ในระดับชั้นอนุบาล 2 จนถึง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีข้าราชการครู 29 คน พนักงานราชการ 1 คน ครูอัตราจ้าง 3 คน ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ 2 คน ครูพี่เลี้ยงปฐมวัย 6 คน ครูธุรการ 1 คน และมีลูกจ้างประจำ 1 คน ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 632 คน มีสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ดังนี้ 1) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ต่ำ 2) ครูบางคนยังไม่ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ 3) ครูบางคนยังไม่สอนให้ลงมือปฏิบัติ 4) ครูบางคนใช้สื่อในการสอนน้อย เพื่อเป็นการริเริ่มพัฒนาการบริหารจัดการสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น จึงได้คิดค้นรูปแบบการพัฒนาสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิส โดยใช้กลยุทธ์ MS-TEAM MODEL ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) กิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสูตรของสถานศึกษาที่กำหนด โดยคำนึงถึงผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการดำเนินการต่างๆ ภายใต้แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปีของโรงเรียน มีการนิเทศภายในสถานศึกษาโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน เพื่อให้การดำเนินงานของโรงเรียนสอดคล้องกับนโยบาย กลยุทธ์ จุดเน้นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน โดยกำหนดการให้ครูทุกชั้นเรียนจัดกิจกรรมการเรียนแบบ Open Classroom ภาคเรียนละ 1 ครั้ง (ปีการศึกษาละ 2 ครั้ง) โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหารและคณะครูในกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษา
มีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้
1) ขั้นวางแผน (P)
- ประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้แก่คณะครูและบุคลากร เกี่ยวกับกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning)
- แต่งตั้งคณะทำงานและวางแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้
2) ขั้นดำเนินการ (D)
- คณะทำงานร่วมกันออกแบบกิจกรรม /จัดกิจกรรมการพัฒนาครูและเข้าร่วมกับหน่วยงาน
ทางการศึกษาที่จัดกิจกรรม
- ดำเนินการจัดกิจกรรมตามปฏิทินของโรงเรียน
- จัดกิจกรรมการเรียนแบบ Open Classroom
3) ขั้นประเมินติดตามผลการดำเนินงาน (C)
- กำกับ ดูแล ติดตามผลและประเมินผล
- ประเมินผลการดำเนินกิจกรรม
4) ขั้นสรุปพัฒนาผลงาน (A)
- สรุปผลการดำเนินโครงการ
5) ขั้นรายงานผลการดำเนินงานและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ (R)
- จัดทำเอกสารรายงานผลการดำเนินโครงการ และเผยแพร่
3.1 เชิงปริมาณ
ครูประจำชั้นทุกคน สามารถจัดการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning)
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนได้เรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) และมีผลสัมฤทธ์ทางการเรียนสูงขึ้น